ควันที่พวยพุ่งออกจากปากนั้นมันช่างหอมหวานเจือรสผลไม้ แถมมันยังให้ความรู้สึกรื่นรมย์ และโล่งปอดด้วย... แม่คงเซ็ง-เซ็งนะถ้ารู้ว่าลูกสาวตัวดีหนีไปสูบ shisha มา (นี่ก็ต้องไปขอยืมรูปคนอื่นมา present ด้วย เพื่อความปลอดภัย..)
หลังจากได้ระบายความอึดอัดในการเดินทางมาที่นี่ และได้เจอพฤติกรรมผู้ชายในไคโรที่ส่วนใหญ่รบกวนโสตประสาท เพื่อนร่วมเดินทางคู่แรก ลาร์สและทาช่า ชวนฉันไป local café ที่อยู่ใกล้ที่พักพวกเรา ซึ่งเขาไปเจอโดยบังเอิญ และชื่นชอบบรรยากาศมากๆ เพราะไม่ใช่มีแต่คนท้องถิ่นอย่างเดียว แต่มีคนต่างชาติปะปนอยู่ด้วย รับรองว่า เราจะไม่ถูกจับจ้องเวลาที่เดินเข้าไปแน่นอน
นี่ถ้าเป็น local café ทั่วไป ฉันไม่กล้าเข้าถ้าไม่มีเพื่อนไปด้วย ทำไมน่ะรึ เพราะมีแต่ผู้ชายทั้งนั้น แถมยังจ้องมองอย่างกับเราเป็นตัวประหลาด ไม่มีผู้หญิงพื้นเมืองที่ไหนเข้าไปนั่งคนเดียว มันเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมที่นี่ ที่เปิดกว้างให้ผู้ชายออกมาพบปะเพื่อนฝูงและสังสรรค์ได้อย่างอิสระมากกว่า ส่วนผู้หญิงก็มาได้ ยุคนี้เปิดกว้างให้กับผู้หญิงเช่นกัน แต่ส่วนใหญ่จะต้องมากันเป็นกลุ่ม หรือไม่ก็มากับคู่ของตน ถ้าจะมาเดี่ยวคงต้องไป café ที่เน้นขายให้ชาวต่างชาติเป็นส่วนใหญ่
Café แห่งนี้ซ่อนตัวอยู่ในหลืบที่ฉันเดินผ่านทุกวัน แต่ไม่เคยสังเกตเลย แน่ล่ะสิ ก็เล่นเดินไล่กระบืออยู่ตลอดเวลา ตรอกที่ว่านี่ เขาจะปิดถนนเพื่อให้ร้านค้าเอาโต๊ะมาเรียงบนทางเดินและพื้นถนน เสียงคนคุยกันคละเคล้ากับเสียงหัวเราะรื่นเริง เจือกับหมอกควันบางๆ กระจายอยู่โดยรอบ ที่มาจาก shisha หรือ waterpipe ที่คนสูบกันดาดดื่น มันเป็นฉากที่เห็นได้ทั่วไป เพราะการสูบ shisha เป็นที่นิยมมากในประเทศแถบตะวันออกกลาง
เราได้โต๊ะที่อยู่บนฟุตบาทที่ยกสูงขึ้นมาหน่อย ทำให้เห็นภาพมุมที่กว้างกว่าปกติ พวกเราสั่ง shisha รสแอบเปิ้ล ซึ่งถือว่าเป็นรสมาตรฐานที่หาได้ทั่วไปเพราะเป็นที่นิยม และชาหนึ่งเหยือก จริงๆ แล้ว การสูบ shisha ก็เหมือนกับการสูบบุหรี่ แต่มันจะไม่ร้อน และมีกลิ่นหอมของผลไม้ หรือไม่ก็พืชสมุนไพรอย่างใบสะระแหน่ แล้วแต่จะเลือก
สักพักเจ้าของร้านให้เด็กเอากระบอกสูบทรงสูง ที่ตรงกลางมีรูปร่างเหมือนคนโทแก้วบรรจุน้ำอยู่ด้านใน พร้อมกับสายต่อที่เราใช้สูบ ส่วนพนักงานเดินถ่าน เดินเข้ามาหนีบถ่านร้อนก้อนไม่ใหญ่มาก วางอยู่บนถ้วยเซรามิคเล็กๆ ที่อยู่บนสุดปิดด้วยแผ่นอลูมิเนียมที่ใช้ห่ออาหาร รอให้มันอุ่นสักพัก ลาร์สบอกว่า ไม่ควรใส่ถ่านมาก หรือปล่อยให้ร้อนเกินไป ไม่งั้นมันจะขมๆ ที่คอ การสูบ shisha เป็นการสูบผ่านน้ำ ทำให้ช่วยลดความร้อนที่จะเข้าสู่ปอด (แต่จริงๆ แล้ว น้ำไม่ได้ช่วยกรองสารก่อมะเร็งแต่อย่างใด ฉะนั้น อันตรายที่ได้จึงไม่ต่างจากการสูบบุหรี่นัก) เขาทดลองก่อน พอเห็นว่าใช้ได้ แล้วจึงส่งต่อให้ทาช่า แล้วก็ถึงทีเรา อืม! มันเบากว่าที่คิด ไม่ฉุนหรือร้อนที่ปอด และหอมกลิ่นผลไม้จริงๆ รู้สึกโล่งๆ สบายตัว
ทาช่าเล่าว่า เขากับลาร์สย้ายมาอยู่ที่นอร์เวย์ เพราะสามีเขาซึ่งเป็นนักฟุตบอลและไปค้าแข้งกับสโมสรฟุตบอลในนอร์เวย์ ส่วนตัวเขายังเป็นนักเรียนอยู่ กำลังเรียนด้านบริหารธุรกิจ ขณะเดียวกันก็ต้องเรียนภาษานอร์เวย์ด้วย ซึ่งยังไม่ค่อยดีนัก ไม่เหมือนลาร์สเพราะเขาพูดได้หลายภาษา เป็นหนึ่งในพวกอัจฉริยะที่เรียนรู้ได้เร็ว ฤดูกาลการแข่งบอลก็จะไม่เหมือนยุโรปตอนล่าง จะได้พักช่วงหน้าหนาว คู่นี้น่ารักแบบมันส์ๆ ตลกๆ สวีตบ้างแต่ไม่มากเท่าพวกอเมริกันบางคน ดีใจจังที่ได้เจอสองคนนี้
ยิ่งดึก ตรอกนี้ยิ่งคึกคัก นักเดินทางชาวต่างชาติ คนเมือง เด็กเดินถ่าน พนักงานเสิร์ฟ เดินผ่านเรากันให้ควั่ก โต๊ะที่อยู่ข้างๆ เงียบลง และดังขึ้นอีกครั้ง พร้อมกับคนกลุ่มใหม่ ที่เข้ามาแทนที่ แต่ควันจาก shisha ยังคงไม่ถดถอย มีบ้างที่จางลง แต่แล้วกลับพวยพุ่งออกมาใหม่ โต๊ะแล้วโต๊ะเล่า เรานั่งมองภาพความเคลื่อนไหวนั้นอย่างไม่มีเบื่อ
แล้วควันจากโต๊ะเราก็ค่อยๆ จางลง แต่มันก็จะพวยพุ่งอีกครั้งจากคนกลุ่มใหม่ๆ ที่หมุนเวียนเข้ามา พรุ่งนี้แล้วซิที่เราต้องแยกย้ายและไปต่อ แต่ก่อนไปฉันว่าฉันจะไปหาแหล่งสูบ shisha ที่ใหม่..จัดไป!!!
หลังจากได้ระบายความอึดอัดในการเดินทางมาที่นี่ และได้เจอพฤติกรรมผู้ชายในไคโรที่ส่วนใหญ่รบกวนโสตประสาท เพื่อนร่วมเดินทางคู่แรก ลาร์สและทาช่า ชวนฉันไป local café ที่อยู่ใกล้ที่พักพวกเรา ซึ่งเขาไปเจอโดยบังเอิญ และชื่นชอบบรรยากาศมากๆ เพราะไม่ใช่มีแต่คนท้องถิ่นอย่างเดียว แต่มีคนต่างชาติปะปนอยู่ด้วย รับรองว่า เราจะไม่ถูกจับจ้องเวลาที่เดินเข้าไปแน่นอน
นี่ถ้าเป็น local café ทั่วไป ฉันไม่กล้าเข้าถ้าไม่มีเพื่อนไปด้วย ทำไมน่ะรึ เพราะมีแต่ผู้ชายทั้งนั้น แถมยังจ้องมองอย่างกับเราเป็นตัวประหลาด ไม่มีผู้หญิงพื้นเมืองที่ไหนเข้าไปนั่งคนเดียว มันเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมที่นี่ ที่เปิดกว้างให้ผู้ชายออกมาพบปะเพื่อนฝูงและสังสรรค์ได้อย่างอิสระมากกว่า ส่วนผู้หญิงก็มาได้ ยุคนี้เปิดกว้างให้กับผู้หญิงเช่นกัน แต่ส่วนใหญ่จะต้องมากันเป็นกลุ่ม หรือไม่ก็มากับคู่ของตน ถ้าจะมาเดี่ยวคงต้องไป café ที่เน้นขายให้ชาวต่างชาติเป็นส่วนใหญ่
Café แห่งนี้ซ่อนตัวอยู่ในหลืบที่ฉันเดินผ่านทุกวัน แต่ไม่เคยสังเกตเลย แน่ล่ะสิ ก็เล่นเดินไล่กระบืออยู่ตลอดเวลา ตรอกที่ว่านี่ เขาจะปิดถนนเพื่อให้ร้านค้าเอาโต๊ะมาเรียงบนทางเดินและพื้นถนน เสียงคนคุยกันคละเคล้ากับเสียงหัวเราะรื่นเริง เจือกับหมอกควันบางๆ กระจายอยู่โดยรอบ ที่มาจาก shisha หรือ waterpipe ที่คนสูบกันดาดดื่น มันเป็นฉากที่เห็นได้ทั่วไป เพราะการสูบ shisha เป็นที่นิยมมากในประเทศแถบตะวันออกกลาง
เราได้โต๊ะที่อยู่บนฟุตบาทที่ยกสูงขึ้นมาหน่อย ทำให้เห็นภาพมุมที่กว้างกว่าปกติ พวกเราสั่ง shisha รสแอบเปิ้ล ซึ่งถือว่าเป็นรสมาตรฐานที่หาได้ทั่วไปเพราะเป็นที่นิยม และชาหนึ่งเหยือก จริงๆ แล้ว การสูบ shisha ก็เหมือนกับการสูบบุหรี่ แต่มันจะไม่ร้อน และมีกลิ่นหอมของผลไม้ หรือไม่ก็พืชสมุนไพรอย่างใบสะระแหน่ แล้วแต่จะเลือก
สักพักเจ้าของร้านให้เด็กเอากระบอกสูบทรงสูง ที่ตรงกลางมีรูปร่างเหมือนคนโทแก้วบรรจุน้ำอยู่ด้านใน พร้อมกับสายต่อที่เราใช้สูบ ส่วนพนักงานเดินถ่าน เดินเข้ามาหนีบถ่านร้อนก้อนไม่ใหญ่มาก วางอยู่บนถ้วยเซรามิคเล็กๆ ที่อยู่บนสุดปิดด้วยแผ่นอลูมิเนียมที่ใช้ห่ออาหาร รอให้มันอุ่นสักพัก ลาร์สบอกว่า ไม่ควรใส่ถ่านมาก หรือปล่อยให้ร้อนเกินไป ไม่งั้นมันจะขมๆ ที่คอ การสูบ shisha เป็นการสูบผ่านน้ำ ทำให้ช่วยลดความร้อนที่จะเข้าสู่ปอด (แต่จริงๆ แล้ว น้ำไม่ได้ช่วยกรองสารก่อมะเร็งแต่อย่างใด ฉะนั้น อันตรายที่ได้จึงไม่ต่างจากการสูบบุหรี่นัก) เขาทดลองก่อน พอเห็นว่าใช้ได้ แล้วจึงส่งต่อให้ทาช่า แล้วก็ถึงทีเรา อืม! มันเบากว่าที่คิด ไม่ฉุนหรือร้อนที่ปอด และหอมกลิ่นผลไม้จริงๆ รู้สึกโล่งๆ สบายตัว
ทาช่าเล่าว่า เขากับลาร์สย้ายมาอยู่ที่นอร์เวย์ เพราะสามีเขาซึ่งเป็นนักฟุตบอลและไปค้าแข้งกับสโมสรฟุตบอลในนอร์เวย์ ส่วนตัวเขายังเป็นนักเรียนอยู่ กำลังเรียนด้านบริหารธุรกิจ ขณะเดียวกันก็ต้องเรียนภาษานอร์เวย์ด้วย ซึ่งยังไม่ค่อยดีนัก ไม่เหมือนลาร์สเพราะเขาพูดได้หลายภาษา เป็นหนึ่งในพวกอัจฉริยะที่เรียนรู้ได้เร็ว ฤดูกาลการแข่งบอลก็จะไม่เหมือนยุโรปตอนล่าง จะได้พักช่วงหน้าหนาว คู่นี้น่ารักแบบมันส์ๆ ตลกๆ สวีตบ้างแต่ไม่มากเท่าพวกอเมริกันบางคน ดีใจจังที่ได้เจอสองคนนี้
ยิ่งดึก ตรอกนี้ยิ่งคึกคัก นักเดินทางชาวต่างชาติ คนเมือง เด็กเดินถ่าน พนักงานเสิร์ฟ เดินผ่านเรากันให้ควั่ก โต๊ะที่อยู่ข้างๆ เงียบลง และดังขึ้นอีกครั้ง พร้อมกับคนกลุ่มใหม่ ที่เข้ามาแทนที่ แต่ควันจาก shisha ยังคงไม่ถดถอย มีบ้างที่จางลง แต่แล้วกลับพวยพุ่งออกมาใหม่ โต๊ะแล้วโต๊ะเล่า เรานั่งมองภาพความเคลื่อนไหวนั้นอย่างไม่มีเบื่อ
แล้วควันจากโต๊ะเราก็ค่อยๆ จางลง แต่มันก็จะพวยพุ่งอีกครั้งจากคนกลุ่มใหม่ๆ ที่หมุนเวียนเข้ามา พรุ่งนี้แล้วซิที่เราต้องแยกย้ายและไปต่อ แต่ก่อนไปฉันว่าฉันจะไปหาแหล่งสูบ shisha ที่ใหม่..จัดไป!!!
No comments:
Post a Comment